วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Craft 7 days to die (TH) ใบหญ้าสูง

ใบหญ้าสูง ชื่อบอกอยู่แล้วนะคะว่าตัดมาจากต้นหญ้าสูง 

Blades of Tall Grass - ใบหญ้าสูง





              หาได้จากหญ้าสูง หรือหญ้าสีน้ำตาล ช่วงต้นเกมนี่หาได้ง่ายมาก ๆ และควรหาไว้ตั้งแต่เริ่มเกมเลย ต่อยเพียง 4 ครั้ง ก็ได้แล้ว แต่ถ้าใช้เครื่องมือช่วยก็เพียงครั้งเดียว หน้าตาต้นหญ้าเป็นดังรูปข้างล่างค่ะ หญ้าสีน้ำตาลจะหาได้ที่ทะเลทรายเท่านั้น หญ้าสูงหาได้ที่ ป่า, ที่ราบ, ป่าสน, ทะเลทราย ซึ่งใน Alpha 11 สามารถหาได้ทั่วโล



ใบหญ้าสูงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ฉะนั้นควรเก็บเยอะ ๆ ในช่วงเริ่มเกม เพราะหาได้ง่ายและใช้ผลิตสิ่งของได้หลายอย่าง เมื่อได้มาแล้วควรทำเป็นเส้นใยพืชเลย ส่วนใหญ่แล้วเส้นใยพืชนี่แหละที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต ใบหญ้าอย่างเดียวใช้ผลิตได้ไม่กี่อย่าง ดูวิธีทำเส้นใยพืชได้ตามลิงก์ด้านล่าง

สามารถประดิษฐ์สิ่งของได้ 3 อย่าง (ผลิตโดยตรง) และเป็นวัตถุดิบในการผลิตสิ่งอื่น ๆ อีก

Plant Flbers - เส้นใยพืช

Hay Bale - กองฟาง

Potted Plant - ไม้กระถาง


ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เส้นใยพืช
ที่มา 7 days to die




วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Crafting 7 days to die (TH) เส้นใยพืช

           สิ่งแรกเมื่อเข้าไปในเกมต้องเก็บของค่ะ เก็บ ๆ ๆ ในกล่อง, กองขยะ, รถเก่า, ศพคน บลา ๆ เก็บทุกอย่างแต่สิ่งสำคัญที่หาได้ง่ายสุด ๆ คือหญ้าค่ะ 

Plant Fibers - เส้นใยพืช



            เส้นใยพืชหาได้ 2 ที่ค่ะ หาได้ง่ายสุด ๆ มาจากหญ้าสูงช่วงแรกของเกม ชก 4 ครั้งหญ้าก็จะตกแล้ว แต่ถ้าหาเครื่องมือได้จะเร็วกว่า ตีครั้งเดียวก็ได้แล้ว หญ้าสูงหาได้ที่ ป่า, ป่าสน, ที่ราบ และทะเลทราย ใน Alpha 11 สามารถหาได้ทั่วโลก
          
วิธีประดิษฐ์



             หญ้า 1 ต้น ได้เส้นใยพืช 1 อัน เส้นใยพืช 1 ช่องเก็บได้ 64 อัน

สามารถผลิตของได้ดังนี้



            ขวานหินกับคบเพลิงบอกวิธีทำไว้แล้ว ส่วนของอื่น ๆ จะบอกในครั้งต่อไปค่ะ

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง ขวานหิน คบเพลิง ใบหญ้าสูง
ที่มา 7 days to die

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

7 Days to Die (TH) วัตถุดิบอเนกประสงค์ "ไม้กระดาน"

            ในบทความก่อน ๆ พลอยได้บอกวิธีการประดิษฐ์สิ่งของไปบ้างเล็กน้อย ในครั้งนี้จะบอกวิธีการทำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการประดิษฐ์ เราจะเรียกพวกนี้ว่า "วัตถุดิบอเนกประสงค์" เพราะว่ามันนใช้ในการประดิษฐ์หลาย ๆ อย่าง เรียกว่าควรมีเก็บไว้มาก ๆ จะดีที่สุด วันนี้พลอยจะบอกวิธีทำ "ไม้กระดาน" 

Wood Plank - ไม้กระดาษ


        นอกจากใช้ในการประดิษฐ์แล้ว ไม้กระดาษยังใช้เป็นวัตถุดิบในการอัพเกรดอีกด้วย ใน 1 ช่อง เก็บได้ 250 แผ่น ไม้ที่ใช้ทำไม้กระดาษมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ เผาไหม้ 12 วินาที

1. ไม้ชนิดแรกหาได้ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ Wood Log - ไม้ซุง


             สถานที่ที่หาได้คือ Forests, Plains  เจอต้นไม้สูง ๆ ใหญ่ ๆ ในป่าก็ตัดได้เลยค่ะ เครื่องมือที่ใช้ตัดไม้คือ ขวาน (Fire axe) หรือ ขวานหิน แต่ถ้าเป็นต้นใหญ่ ๆ ขวานหินอาจจะใช้เวลาตัดมากหน่อย ใน 1 ช่อง เก็บได้ 64 ท่อน ง่ายสุดคือใช้มือนี่แหละชกเลย ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรขอให้ระวังนิดหนึ่งนะคะ เสียงเวลาตัดหรือโค่นต้นไม้จะเรียกซอมบี้ เครื่องมืออย่างอื่นก็ใช้ตัดไม้ได้นะคะ

             ต้นไม้แต่ละต้นจะให้ไม้ซุงจำนวนไม่เท่ากัน ต้นเล็กก็จะให้น้อยกว่าต้นใหญ่ นอกจากนี้ต้นสนและต้นเมเปิ้ล เมื่อโค้นแล้วยังให้เมล็ดเอาไว้ปลูกอีก สามารถเก็บได้จากกล่องของขวัญด้วย ต้นที่ยังโตไม่เต็มที่จะไม่ให้เมล็ด ถ้าต้นใหญ่ ๆ ก็จะได้แน่ ๆ

             พลอยจะไม่ทำเรื่องเมล็ดสนและเมเปิ้ล ฉะนั้นจะบอกไว้ในนี้เลยนะคะ เมล็ดเหล่านี้ 1 ช่องเก็บได้สูงสุด 64 เมล็ด วิธีการปลูก ปลูกบนพื้นดินที่เป็นพื้นฐาน (ดินในอาคารไม่ได้นะ) ไม่ต้องอยู่ติดแหล่งน้ำ ต้องเป็นพื้นเรียบ ๆ ไม่มีหญ้าหรือก้อนหิน

              ไม้ซุงสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในการทำอาหาร หรือ หลอมแร่ 1 ท่อนจะเผาไหม้ 3.12 นาที ไม้ซุงใช้ทำกระท่อมไม้, กับดักไม้ซุง และไม้กระดาน 

              ใส่ไม้ซุง 1 ท่อนลงตรงกลางตารางประดิษฐ์ จะได้แผ่นไม้กระดานประมาณ 16 แผ่น ใช้เวลาในการผลิต 4 วินาที

2. Wood Log Spike - กับดักไม้ซุง


           คุณอ่านไม่ผิดหรอก พลอยหมายถึงกับดักไม้ซุงตามย่อหน้าข้างบนจริง ๆ กับดักไม้ที่ผลิตจากไม้ซุง 4 ท่อน จะได้กับดักไม้ซุง 4 ท่อน และกับดักไม่ซุง 1 ท่อน ใช้ผลิตไม้กระดานได้ประมาณ 16 แผ่น ใช้เวลาเผาไหม้ 2.08 นาที

           สรุปง่าย ๆ มันก็คือการนำไม้ซุงมาทำแผ่นไม้กระดานนั่นแหละ เพียงแต่ใช้วิธีอ้อม ๆ และทำให้เสียเวลาขึ้น นอกจากนี้กับดักไม้ซุงยังใช้เป็นเชื้อเพลิงได้เช่นเดียวกับไม้ซุง แต่ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือทำไม้กระดาน ควรเอามาใช้เป็นกับดักมากกว่า ซึ่งจะอธิบายในบทความต่อ ๆ ไป

3. Aged Wood - ไม้เก่า

            ไม้เก่าสามารถพบได้ที่ทะเลทรายเท่านั้น และในทะเลทรายก็มีไม้เพียงชนิดเดียว ใช้เป็นเชื้อเพลิง เผาไหม้ได้ 24 วินาที ใน 1 ท่อนสามารถผลิตไม้กระดานได้ 8 แผ่น

           ครบแล้วค่ะ สำหรับไม้ทั้ง 3 ประเภทที่ใช้ทำแผ่นไม้กระดาน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่เล่นเกมนี้อยู่นะคะ คราวหน้าจะนำวิธีสร้างอะไรมาบอกต้องติดตามค่ะ

ที่มา 7 days to die Crafting

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review พ่อรวยสอนลูก#2 เงินสี่ด้าน



ชื่อ พ่อรวยสอนลูก#2 เงินสี่ด้าน
โดย Robert T. Kiyosaki
เรียบเรียงโดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์, โอฬาร ภัทรกอบกิตติ์, ชัชวนันท์ สันธเดช, สุภศักดิ์ จุลละศร
สำนักพิมพ์ ซีเอ็ด
ราคา 225 บาท
จำนวน 370 หน้า

คุณเคยถามตัวเองไหมว่า...
* ทำไมนักลงทุนบางคนทำเงินได้โดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่แค่เท่าทุนได้ก็เหนื่อยแล้ว
* ทำไมคนเป็นลูกจ้างส่วนใหญ่ถึงย้ายงานไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนบางคนลาออกจากงานแล้วสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง
* การเปลี่ยนผ่านจากยุคอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร มีความหมายต่อฉันและครอบครัวของฉันอย่างไรบ้าง


             เล่ม 2 ของพ่อรวยสอนลูก จะพูดถึงเงิน 4 ด้าน รายได้ 4 แบบ จากภาพข้างบนเลยจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่อยู่ฝั่งซ้าย แถมยังเป็น E (พลอยเองก็อยู่ด้านนี้) ถ้าอยากมีอิสรภาพทางการเงินต้องก้าวข้ามมาอยู่ฝั่งขวา

            ในเล่มนี้นอกจากพูดถึงที่มาของรายได้ทั้ง 4 แบบแล้วจะเน้นไปที่กระแสเงินสดของแบบต่าง ๆ ให้เราได้มองเห็นภาพกันมากขึ้น

              ทางฝั่งซ้าย เมื่อได้เงินมาก็เอาไปใช้หนี้ ที่เหลือก็จ่ายออกไปหมด ฝั่งขวา เงินที่ได้มาเอามาสร้างทรัพย์สิน และทรัพย์สินนั้นก็สร้างเงินให้กับเรา

              หนังสือได้บอกวิธีการข้ามมาอยู่ฝั่งขวา การเป็น B และ I ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้วละว่าเมื่ออ่านจบจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้แต่งต้องการสื่อจริง ๆ หรือไม่ และเมื่อเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติหรือเปล่า

             จะเห็นว่าในบทความที่แล้วพลอยก็เน้นเรื่องความเข้าใจและการลงมือปฏิบัติ ใคร ๆ ก็อยากรวย พลอยเองก็อยาก แต่ไม่มีอาชีพใดบนโลกนี้ง่าย ถ้าคุณคิดว่ามีเงินสักก้อน เอาไปลงทุนสักอย่างแล้วก็ปล่อยให้เงินมันทำงาน รอเฉย ๆ เราก็ได้เงินคืนเป็นเท่าตัว คุณอาจตกลงไปในกับดับของคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน"

             อย่างที่เล่ม 1 ของพ่อรวยสอนลูกได้บอกไว้ สิ่งที่สำคัญคือความรู้ หากเราไม่มีความรู้ในสิ่งที่เราทำ สุดท้ายเราเองก็จะหมดตัวได้ 

             ยิ่งในช่วงหลายปีมานี้มีธุรกิจหลายอย่างที่หลอกให้คนเอาเงินไปลงทุนเรายิ่งต้องหาความรู้ให้มาก ๆ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนไม่ดีเหล่านั้น

             คำว่าอิสรภาพทางการเงิน หมายถึงเราหยุดทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ และทำในสิ่งที่อยากทำได้ ตัวอย่างง่าย ๆ "เอเป็นคนชอบวาดรูป อยากมีแกลลอรี่เป็นของตัวเอง แต่มันมีเงินพอ และวาดรูปขายก็ไม่พอกิน เอจึงต้องไปเป็นพนักงานบริษัท เอไม่ชอบเลยแต่เอก็อดทนเก็บเงินและศึกษาเกี่ยวกับการลงทุน แล้วนำเงินนั้นไปลงทุนจนมีรายได้มากกว่ารายจ่าย เอจึงลาออกจากงานและมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักโดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีกินอีกต่อไป"

             เห็นไหมคะ เอไม่ได้อยู่เฉย ๆ เขายังคงทำงานแม้มีเงินมากพอแล้ว เขาไม่ได้ลงทุนโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ลงทุนนั้นคืออะไร เป็นอย่างไร

            สุดท้ายคือการลงมือปฏิบัติ หากอ่านแล้วเข้าใจแล้ว แต่ไม่ทำ คุณก็คงไม่มีวันไปเป็น B หรือ I ได้อย่างแน่นอน 

            ถ้าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นสร้างโลกแห่งอิสรภาพทางการเงินของตัวเอง หนังสือเล่มนี้ให้คำตอบคุณได้

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review พ่อรวยสอนลูก


ชื่อ พ่อรวยสอนลูก
โดย Robert T. Kiyosaki
เรียบเรียงโดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์
สำนักพิมพ์ ซีเอ็ด
ราคา 190 บาท
จำนวน 250 หน้า

พ่อรวยสอนลูก จะบอกเล่าถึง...
* ความเชื่อผิด ๆ ที่คิดว่า ต้องมีเงินมากถึงจะรวยได้
* ความเชื่อผิด ๆ ที่คิดว่า บ้านเป็นทรัพย์สิน
* ความเชื่อผิด ๆ ที่คิดว่า โรงเรียนจะสอนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ถูกต้องให้กับลูกหลานของเรา
* นิยามของทรัพย์สินและหนี้สินที่ถูกต้อ
* ความรู้ทางการเงินสำหรับทุกคนที่ต้องการควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง

               หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์มาก ๆ ต้องยอมรับว่าเราเรียนหนังสือมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีโรงเรียนไหนเลยสอนให้เราจัดการการเงินของตัวเอง สอนให้เรารู้ว่าจะต้องลงทุนอย่างไร ออมอย่างไร หนังสือเล่มนี้ผู้แต่งได้บอกเล่าประสบการณ์ของเขาเอง ซึ่งเริ่มจาก 0 เหมือนเรา ๆ นี่แหละ ไม่ได้เป็นลูกคนรวยมาจากไหน ไม่มีสมบัติตกทอด อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่าถ้าทำอย่างเขาได้ เราก็รวยเหมือนเขาได้

                  พ่อรวยสอนลูกช่วยเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ได้ (ถ้าคุณเปิดใจ) ให้เราคิดแบบที่คนรวยเขาคิดกัน ถ้าเราอยากรวยต้องเริ่มจากเปลี่ยนความคิดซะก่อน

                 สิ่งที่ผู้แต่งเน้นย้ำมาก ๆ คือความรู้ทางการเงิน เพราะถ้าเรามีเงินแล้วไม่มีความรู้ เราก็ไม่สามารถรักษาเงินของเราไว้ได้ หรือคนชั้นกลางที่อยากรวย พอมีเงินเก็บก็ลงทุนแบบไม่มีความรู้ สุดท้ายก็จบลงที่หมดตัว แล้วก็โทษว่าคนที่รวยคือพวกที่โกง การลงทุนคือความเสี่ยง แต่ที่เสี่ยงจริง ๆ น่ะคือตัวคุณเองนั่นแหละ ความเสียงจะหายไปถ้ามีความรู้ 

                 คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน แต่จะให้เงินทำงานให้ ทุกวันนี้คำว่า "อิสระภาพทางการเงิน" เป็นคำยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นและคนที่ปรารถนาจะรวย พลอยมั่นใจว่า 80% ของคนที่สนใจคำนี้ ไม่ได้เข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง และสุดท้ายก็ติดกับดักทางการเงินที่เขาเอาคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" มาหลอก

                  คุณเคยเห็นคนรวยหยุดงานไปเที่ยวรอบโลก เที่ยวต่างประเทศ ไม่ทำงาน นอนตีพุงเป็นปีไหม  ไม่ใช่ไหม พวกเขาทำงานหนักกว่าพนักงานกินเงินเดือนเสียอีก หลายคนเข้าใจว่าอิสรภาพทางการเงินคือการมีเงินใช้อย่างเหลือเฟือโดยไม่ต้องทำงาน นั่นคือความเข้าใจผิด แม้คนรวยจะไม่เข้าบริษัท ไม่ได้ลงมือปฏิบัติงาน แต่สมองของเขาไม่เคยหยุดนิ่ง ต้องคิดตลอดเวลา พัฒนาความรู้ความสามารถ หาข่าวสาร และเฝ้าติดตามธุรกิจของตัวเอง

               เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วก็ต้องปรับเปลี่ยนทัศนะคติให้เหมือนคนรวย จากนั้นหาความรู้ และลงมือทำ หนังสือเล่มนี้บอกวิธีที่จะทำให้คุณรวยไว้แล้ว เหลือแค่คุณเท่านั้นที่เมื่ออ่านมันจนจบก็ลงมือปฏิบัติจริง ๆ เสียที




วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review เซวีน่า 3 นคราเซวีน่าคือหนึ่งเดียว



ชื่อ เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา 3 นคราเซวีน่าคือหนึ่งเดียว
โดย กัลฐิดา
สนพ. สถาพรบุ๊คส์
ราคา 340 บาท
จำนวน 592 หน้า

"เมื่อกงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุน ชะตากรรมของผู้คนที่ถูกผูกไว้ด้วยวลีแห่งอัญมณีศักดิ์สิทธิ์จึงเริ่มขึ้น... ณ มหานครแห่งนี้"


               เล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายของเซวีน่า แต่ไม่ท้ายที่สุด เพราะภายหลังมีการเรียกร้องขอให้แต่งต่อไปจนมีเล่ม 4-5 ออกมาในที่สุด ซึ่งเราจะรีวิวกันภายหลัง

               ในเล่มนี้จะเป็นบทสรุปของทุกอย่าง ในเล่มที่แล้วแต่ละรัฐพากันมาทดสอบเฟมีล แต่ในเล่มนี้ไม่ต้องทดสอบแล้ว ลงมือทำจริงเลย ชีวิตของเฟมีลทั้งหนัก ทั้งเหนื่อยมากยิ่งขึ้น และอันตรายมากขึ้นไปอีก

ในที่สุดเฟมีลก็ได้พ่อแม่กลับมาอยู่ด้วยกัน แถมความรักยังสดใส? เมื่อมีนายแมวขี้เก็กคอยเอาใจ ห่วงใยตลอด 

"ถ้าไม่มีหัวใจแล้วยังรับรู้ถึงตัวตนได้อีกหรือเปล่า...คุณหนูหาคำตอบได้หรือยัง"

"คำถามต่อมา...แล้วถ้าไม่สามารถรับรู้ถึงตัวตนได้อีกต่อไป เราจะทำยังไงคุณหนูบอกว่า จะเสียใจที่สุดเมื่อเสียคนสำคัญไป แล้วคุณหนูจะอยู่อย่างปราศจากหัวใจได้ไหม..."

ถ้าคุณเป็นเฟมีล จะตอบคำถามนี้ยังไงคะ มาหาคำตอบของเรื่องนี้ได้ในเล่มที่ 3 นะคะ แล้วคุณจะรู้ว่านิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ให้อะไรกับคุณมากกว่าความสนุก







วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review เซวีน่า 2 บทพิสูจน์ความสามารถ

            เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา 2 บทพิสูจน์ความสามารถ  เมื่อเฟมีลเข้าโรงเรียนแล้วสิ่งที่ตามมาคือบททดสอบจากบุคคลต่าง ๆ ว่าเฟมีลจะมีพลังมากพอที่จะช่วยเหลือได้จริงไหม 



ชื่อ เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา 2 บทพิสูจน์ความสามารถ 
โดย กัลฐิดา
สนพ. สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 496 หน้า
ราคา 295 บาท


"เฟมีลลุกจากโซฟาไปหยิบหนังสือ
ที่เป็นเหมือนของขวัญวันเกิดมาเปิดดู
ชื่อบนหน้าปกเขียนด้วยหมึกสีทองว่า "SEVENA"
เสียงนาฬิกาตี 7 ครั้ง บอกเวลา 19.00 น.
เมื่อสิ้นเสียงนาฬิกาก็พลันมีแสงสว่างส่องประกาย
ออกมาจากหนังสือ"

             เรียนจบไป 1 ปี ในปีนี้จะได้ไปเที่ยวรัฐต่าง ๆ 1 สัปดาห์ และในทุก ๆ รัฐที่ไปการทดสอบรอเฟมีลอยู่ พลอยชอบเล่มนี้นะ ได้ผจญภัยเยอะดี ใคร ๆ ก็หวังกับพลังของเฟมีล (แม้แต่เจ้าตัวเอง) เฟมีลได้รู้ว่าพลังของตัวเองไม่ได้ช่วยแต่พ่อแม่เท่านั้น แต่ยังช่วยคนอื่น ๆ ได้อีก ว้าว

              ที่สำคัญเพื่อนสนิทของเฟมีลดูเหมือนจะมีคนเขาแอบรักอยู่ น่ารักมาก ๆ เลยละ คู่ของเฟมีลเองก็เช่นกัน พ่อลีโอน่ะปากแข็งมาก ห่วงแต่ก็ทำเป็นเก็ก แอบตามดูแลอยู่ห่าง ๆ 

              ที่น่ารักอีกอย่างของเล่มนี้คือเพื่อน ๆ ของเฟมีลต่างพากันมีคู่ไปหลายคู่ แต่ละคู่ก็น่ารักใช่เล่น สีสันของเรื่องอีกอย่างหนึ่งคือดาร์กี้ เป็นสัตว์ที่เหมือนสุนัขบ้านเราแต่มีปีก!!! เจ้าหมาน้อยรักสนุกนี่สร้างสีสันในเรื่องไม่น้อยหลังจากมาอยู่กับเฟมีลแล้ว และเป็นตัวเด่นของเรื่องไปอีกหลาย ๆ เล่มเลย

             ที่ชอบอีกอย่างในเล่มนี้คือนางเอกดูเหมือนเก่งเวอร์มาก ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกอย่างมาจากความพยายาม มีพรสวรรค์แต่ถ้าไม่พยายามฝึก ก็ไม่มีทางเอาชนะคนที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงได้แน่นอน

             สุดท้ายทฤษฎีเจ็ดสมบูรณ์ โลกเซวีน่าที่ถูกสร้างขึ้นมาจนดูเหมือนโลกในอุดมคติ ที่สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง จริง ๆ แล้วมันไม่ได้สมบูรณ์แบบหรอก แต่ความสมบูรณ์นั้นเกิดจากที่ใครหลาย ๆ คนเสียสละ ได้แง่คิดอะไรมากในเล่มนี้






Review เซวีน่า 1 การกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรม

               ไม่มีครอบครัวใดไม่มีปัญหา อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับมันอย่างไร... สงสัยกันไหมคะว่าทำไมพลอยถึงเริ่มด้วยประโยคนี้ เพราะนิยายที่กำลังจะแนะนำต่อไปนี้เป็นนิยายแฟนตาซี (ที่มีคนเรียกร้องมาว่าอยากให้รีวิวบ้าง) ที่แฝงไปด้วยข้อคิดต่าง ๆ มากมาย ถ้าให้ดึงเอาประโยคเด็ด ๆ ที่ตัวละครพูดออกมา ก็คงเยอะมาก เรื่องราวสนุกชวนติดตาม ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2549 จนถึงตอนนี้ก็ยังขายดีไม่เปลี่ยน



ชื่อ เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา 1 การกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรม
โดย กัลฐิดา
สนพ. สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 286 หน้า
ราคา 195 บาท

               ตอนนี้ใครไปซื้ออาจไม่ได้เห็นปกเก่าอีกแล้ว พลอยว่ามันสวยและดูเรียบ ๆ ดี ตอนหลังมีการจัดทำปกใหม่ ดูสวยไปอีกแบบ (แบบว่าอยากมีไว้ทั้ง 2 ปก) 


              พลอยได้รู้จักหนังสือเล่มนี้หลังจากตีพิมพ์ออกมาแล้ว 1 ปี ตอนนั้นความดังอาจไม่เท่านักเขียนบางคน (ที่ได้ออกทีวีด้วย) แต่ยอดตีพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงบอกเล่าปากต่อปากทำให้ตัดสินใจซื้อมาอ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย เรื่องนี้สนุกมาก และทุก ๆ เรื่องที่พี่กัลเขียนก็สนุกมาก ๆ 

              เฟมีลล่า นางเอกของเรื่องมีชีวิตที่น่าสงสาร นางอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยเฝ้ารอคอยให้คุณลุงกลับมา แนะอ่านมาถึงตรงนี้คิดละสิว่ามันต้องดราม่าแน่ ๆ แต่ไม่เลยนางมองโลกในแง่ดี สดใส และเข้มแข็งมาก

              จุดเปลี่ยนในชีวิตสาวน้อยนักดนตรีอัจฉริยะในเซเว่น (ไม่มีอีเลฟเว่นต่อนะ) เปลี่ยนไปเมื่อได้รับหนังสือเป็นของขวัญวันเกิด หนังสือที่พาเข้าไปยังโลกของเซวีน่า มิติทับซ้อนของเซเว่น 

              เฟมีลพบว่าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนของเซวีน่า มีเหตุผลบางอย่างที่พวกท่านต้องทิ้งไป เธอต้องไขปริศนาต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้า

             ปริศนาทุกอย่างในเรื่องน่าสนใจมาก ทำให้อยากอ่านเล่มต่อไป แต่ละรัฐในเซวีน่าก็มีเรื่องราวของตัวเอง

             ในเล่มแรกนี้ เฟมีลต้องสอบเข้าเรียนให้ได้ เพื่อให้เก่งพอที่จะช่วยพ่อแม่ ความฝันที่จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา มันดูยากเย็น แต่ก็พร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

             ใคร ๆ ก็มองว่าเฟมีลเป็นเด็กที่น่าสงสารที่สุด พลอยก็คิดแบบนั้นนะ (แต่นางไม่คิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นไง) จะมีเด็กสักกี่คนที่คงสภาพจิตใจให้ดีแบบนั้นได้ทั้งที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว อย่าบอกเชียวว่าก็นี่มันนิยาย สิ่งหนึ่งที่นักเขียนทำออกมาได้ดีคือเรื่องมิติของตัวละคร



               พออ่านแล้วรู้สึกเลยว่าตัวละครนั้นต้องเป็นใครสักคนในชีวิตจริง ๆ แน่ บางอย่างเราอาจไม่รู้ตัว แต่ถ้าเราได้พบเจอคนแบบนั้นจริง เราจะรู้สึกเลยว่าทั้งความคิด พฤติกรรม ท่าทาง คำพูด เหมือนเป๊ะ นี่คือสาเหตุที่ทำให้นิยายทุกเล่มของกัลฐิดามีเสน่ห์มาก

              นอกจากมิติของตัวละครแล้วเรื่องความสมเหตุสมผลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้นิยายเรื่องนี้เหมือนสร้างโลกจริง ๆ ขึ้นมาอีกใบ บางคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าเฮ้ย... บางอย่างก็ดูเวอร์นะ ไม่เอาเรื่องพลังนะคะ แต่หมายถึงเรื่องตัวละคร ต้องเข้าใจก่อนว่านักเขียนไม่จำเป็นต้องเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวละครนั้นออกมาให้ผู้อ่านได้รู้ เขาอาจจะไปเฉลยในเล่มสุดท้าย หน้าสุดท้าย หรือเก็บไว้รู้คนเดียวก็ได้

              คนที่ดูภายนอกเข้มแข็ง ในใจเขาอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ ถ้าได้อ่านไปเรื่อย ๆ จนจบ อ่านทุกเล่ม สุดท้ายคุณก็จะได้รู้ ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมดหรอก พลอยว่ามันเป็นเสน่ห์ของนิยาย และคุณจะรู้สึกเลยว่าทุกอย่างมันมีเหตุผล

เล่มนี้จะเริ่มต้นปริศนาทุกอย่าง และมันก็จะค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิด ไปตามกันต่อในเล่มที่ 2 เลยค่ะ