วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review คู่มือเริ่มต้นเล่นหุ้น ONLINE


                        ใครที่สนใจเล่นหุ้นแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ เพราะอ่านเข้าใจง่ายมาก ๆ ปูพื้นฐานทุกอย่างเกี่ยวกับหุ้น อ่านจบเล่นได้จริง พลอยชอบมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเนื้อหาจัดเรียงเอาไว้อย่างดี เรียกว่าเริ่มจากง่าย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับไปเรื่อย ๆ

                   อธิบายความหมายของคำแต่ละคำด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีภาพประกอบสวยงาม เข้าใจได้ไม่ยาก ที่เด่นจริง ๆ คือแคปหน้าจอ มีลูกศรชี้พร้อมทั้งอธิบายอย่างละเอียดทีละขั้นตอนตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงการซื้อขาย

                    สอนพื้นฐานการเล่นทั้งแนว VI และแนวเทคนิค การใช้โปรแกรมและเครื่องมือต่าง ๆ แบบเห็นภาพ เพราะเขาแคปหน้าจอจริง ๆ มาให้ดูแล้ว 

                     แต่อ่านแล้วอาจจะงง ๆ แนะนำให้เข้าไปเล่นใน CLICK2WIN เพราะใช้หน้าจอเหมือนกัน จะทำให้เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น ถ้าเราอ่านแล้วไม่ได้นำความรู้ที่ได้ไปศึกษาต่อยอดเราอาจจะทำได้แค่ส่งคำสั่งซื้อขายและดูได้แบบพื้น ๆ แต่ถ้านำไปต่อยอดจะมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

                     ในหนังสือเล่มนี้สอนวิธีการเล่นเอาไว้หมดแล้ว เพียงแค่คุณเพิ่มพูนความรู้ของตัวเองให้มากกว่านี้ ก็จะกำจัดความเสี่ยงไปได้เยอะ

                      สิ่งสำคัญอีกอย่างที่หนังสือเล่มนี้บอกไว้คือการรู้จักตัดขาดทุน ในเล่มมีตัวอย่างประกอบให้เห็นด้วยเพื่อความเข้าใจ ท้ายเล่มยังมีสรุปให้อีก ใครที่กำลังเล่นหุ้นเข้าตลาดมาใหม่ ๆ หรือสนใจจะเล่น พลอยแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ ดีจริง ๆ

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Tool 7 days to die (TH) ขวานหิน

                     ในช่วงเริ่มเกม ในอัพเดตล่าสุดเราจะไม่สามารถมองเห็นแผนที่ทั้งหมดได้เหมือนแต่ก่อน ความสมจริงที่มีมากขึ้นจะให้เราเริ่มจากตื่นขึ้นมาแบบไม่รู้อะไรเลย และเราจะค่อย ๆ เดินทางไปเรื่อย ๆ พร้อมกับหาสิ่งของต่อสู้กับซอมบี้ ขยายแผนที่ไปเรื่อย ๆ 

                      ในบทความก่อน ๆ พลอยได้นำเสนอเกี่ยวกับอาหารที่หาได้เองง่าย ๆ ทั่ว ๆ ไป และเรื่องของไฟที่จะให้ความสว่างรวมถึงสามารถเป็นอาวุธได้ด้วย แต่คุณคงจะเห็นแล้วว่าในการเล่นเกมจริง ๆ นั้นใช้เพียงมือเปล่าไม่อาจทำให้หาสิ่งเหล่านั้นมาได้ (หรืออาจจะหาได้แต่ไม่ง่ายนัก)

                       วันนี้พลอยจะบอกเกี่ยวกับวิธีการทำเครื่องมือง่าย ๆ ที่ช่วยร่นระยะเวลาในการตัดไม้ ทุบก้อนหิน ฯลฯ และยังใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับซอมบี้ได้อีกด้วย


1. Stone Axe - ขวานหิน




               ขวานหินเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่ควรมีในช่วงเริ่มเกม เพราะมันใช้ตัดไม้ ขุดดิน ขุดแร่ ซ่อมแซมบล็อกที่เสียหาย และยังใช้เป็นอาวุธได้อีกด้วย มันโจมตีได้ช้า ใน 1 ช่องเก็บได้ 1 ชิ้น

                อุปกรณ์ในการทำ และการซ่อมก็หาได้ง่ายมาก และทำได้ง่ายมาก ๆ แนะนำให้ทำมันให้เร็วที่สุดเพราะในช่วงต้นเกมจะมีประโยชน์มาก ๆ ขวานหินไม่สามารถทำลาย หรือ ละลายมันในโรงตีเหล็กได้แต่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ได้

                วิธีการใช้งานนะคะ ง่ายมาก ๆ คลิกเมาส์ซ้ายค่ะ จะเป็นการเหวี่ยงขวานเพื่อขุดดิน ขุดแร่ หรือตัดต้นไม้ มันจะใช้เวลานานเพราะขวานไม่ใช่อุปกรณ์เฉพาะในการทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มันทำทุกอย่าง

                 คลิกเมาส์ขวาเพื่อใช้ซ่อมแซมบล็อก นอกจากนี้มันยังใช้อัพเกรดบล็อกได้อีกด้วย ถ้าใครได้ลองเล่นแล้วจะเป็นว่าใน Alpha 9 เราไม่สามารถสร้างบล็อกไม้ได้ แม้เราจะใช้วิธีเดิมก็ตาม เราก็จะได้เพียงโครงไม้เป็นบล็อกสี่เหลี่ยม วิธีอัพเกรดมันคือการคลิกขวาแบบเดียวกับการซ่อมแซม มันก็จะกลายเป็นกล่องไม้ที่สมบูรณ์ แต่เราจะต้องมีไอเทมที่ใช้อัพเกรดมันอยู่ในตัวด้วยนะ ซึ่งเราจะพูดถึงในบทความต่อ ๆ ไป

                ในการใช้ขวานหินเป็นอาวุธ เฉลี่ยตีที่หัว 2 ครั้ง ซอมบี้ถึงจะตาย หรือ ประมาณ 10 ครั้งที่ร่างกาย จะมีประสิทธิภาพมาก ๆ ถ้ารับมือกับซอมบี้ 1-2 ตัว สามารถสู้กับซอมบี้กลุ่มเล็ก ๆ ได้ และตั้งแต่ Alpha 11 มันจะเสื่อมคุณภาพเร็วมาก ๆ ช่วงต้นเกมเรายังไม่มีอะไรดี ๆ ใช้ ก็สร้างขวานหินไปก่อนเป็นอย่างแรก ผลิตไว้ 2-4 อันค่ะ เผื่อมันพังจะได้มีใช้


การประดิษฐ์




อุปกรณ์มี ท่อนไม้ หินก้อนเล็ก และเส้นใยพืช หินก้อนเล็กหาได้ตามพื้น เก็บมาก็ใช้ได้เลย ใน Alpha 9 จะต้องนำหินมาทำเป็น "หินคม" ก่อน แต่ใน Alpha 11 นี้หยิบขึ้นมาใช้ได้เลย วางตามรูปเลยค่ะ 


วิธีซ่อมแซม




                  ในการใช้งาน ขวานก็จะพังลงเรื่อย ๆ แต่ก่อนที่มันจะพังมากจนหายไปเรายังซ่อมมันได้ค่ะ โดยใช้หินก้อนเล็ก 1 ก้อน สามารถซ่อมได้ 10 หน่วย ซึ่งขวานแบบสมบูรณ์จะมีค่าความคงทนอยู่ที่ 200 หน่วย (แต่เดิมใน Alpha 9 อยู่ที่ 250)


ที่มา 7 days to die Crafting

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง  เส้นใยพืช  ใบหญ้าสูง





Seed 7 Days to die (TH) จับจอบขึ้นมาปลูกพืชซะ

                       ผ่านไปกับอาหารที่หาได้ง่าย ๆ ในเกมไปแล้ว ตอนนี้เรามาดูกันว่า ถ้าเราสนใจที่จะปลูกพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วไปต้องทำยังไงกันบ้าง วันนี้จะนำเสนอวิธีการทำพืชที่เก็บได้ตามทางเป็นเมล็ดพันธุ์ในการเพาะปลูก ให้เรามีใช้เรื่อย ๆ 

               อันดับแรกเราจะต้องมีจอบซะก่อน ซึ่งวิธีการผลิตจะอธิบายในบทถัดไป อันดับต่อมาคือเมล็ดพืช ซึ่งในบทนี้จะบอกไว้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง



               เมื่อครบแล้ว ถือจอบแล้วคลิกขวาเพื่อปรับปรุงหน้าดินให้พร้อมสำหรับการปลูก จากนั้นถือเมล็ดพืชไว้แล้วคลิกขวาที่ดินที่เราเตรียมไว้ จะปรากฎต้นอ่อนขึ้นมามีอุปกรณ์



              อีกวิธีหนึ่งในการปลูกพืช จะต้องมีพลั่ว เมล็ดพืช และดินที่อุดมสมบูรณ์ที่ขุดขึ้นมา จากนั้นเพื่อความปลอดภัย เราก็เก็บกวาดอาคารที่จะทำไร่ อาจทำบนชั้น 2 หรือ ชั้น 3 ก็ได้ เอาพลั่วไปขุดดินข้างนอก ดินอุดมสมบูรณ์จะอยู่ชั้นบนสุดของพื้น และลึกลงไปไม่เกิน 4 บล็อก เมื่อได้แล้วดินจะเป็นสีน้ำตาล เอาไปใส่ในอาคารที่เราจะปลูกได้เลย แล้วก็ปลูกพืชที่ไม่จำเป็นต้องใช้จอม ได้แก่เมล็ดฝ้าย เมล็ดข้าวโพด เมล็ดเมเปิ้ล เมล็ดสน 



               แต่ต้องรีบปลูกนะ ถ้าทิ้งไว้นานดินจะเป็นสีเขียว แบบนั้นต้องใช้จอบเตรียมก่อน กรณีบล็อกหญ้า 1 บล็อก รอบ ๆ เป็นบล็อกสีน้ำตาลที่ปลูกพืชไว้ บล็อกหญ้านั้นสามารถปลูกพืชได้โดยไม่ต้องเตรียมดินก่อน

                 อย่างที่บอกไปข้างต้น เมล็ดเมเปิ้ล หรือเมล็ดสนไม่จำเป็นต้องเตรียมดินก่อน ไม่จำเป็นต้องใช้ดินที่อุดมสมบูรณ์ก็ได้ นั่นทำให้เวลาปลูกมันจะไปทับกับพืชอื่นที่มีอยู่ก่อน การเตรียมดิน การใช้ดินอุดมสมบูรณ์ จะแก้ปัญหาไม่ให้ปลูกทับกัน

1. Cotton Seed - เมล็ดพันธุ์ฝ้าย




                 ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 เมล็ด วิธีทำง่าย ๆ แค่เพียงใส่ฝ้ายที่เก็บได้ตามทางเข้าไป 1 ต้น จะทำเมล็ดพันธุ์ได้ 4 เมล็ด



ฝ้ายใช้ในการทำเศษผ้า และเศษผ้าก็ใช้ทำของใช้อื่นๆได้อีกมาก

2. Potato Seeds - เมล็ดพันธุ์มันฝรั่ง



                     ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 เมล็ด วิธีทำง่าย ๆ แค่เพียงใส่มันฝรั่งที่เก็บได้ตามทางเข้าไป 1 ชิ้น จะทำเมล็ดพันธุ์ได้ 4 เมล็ด



มันฝรั่งใช้ในการทำอาหารหลาย ๆ อย่าง


3. Corn Seed - เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด




                 ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 เมล็ด วิธีทำง่าย ๆ แค่เพียงใส่ข้าวโพดที่เก็บได้ตามทางเข้าไป 1 ฝัก จะทำเมล็ดพันธุ์ได้ 4 เมล็ด


ข้าวโพดใช้ในการทำอาหารได้หลาย ๆ อย่าง


4. Blueberry Seeds - เมล็ดพันธุ์บลูเบอร์รี่




                    ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 เมล็ด วิธีทำง่าย ๆ แค่เพียงใส่บลูเบอร์รี่ที่เก็บได้ตามทางเข้าไป 1 ผล จะทำเมล็ดพันธุ์ได้ 1 เมล็ด


บลูเบอร์รี่นอกจากทานสด ๆ ยังสามารถทำเป็นพายบลูเบอร์รี่ได้อีกด้วย

นอกจากที่ได้ยกตัวอย่างไปพืชอย่างอื่นก็ทำเป็นเมล็ดได้ แม้กระทั่งต้นไม้ก็สามารถปลูกไว้ตัดไม้ก็ได้



++++++++++++++++++++++++++

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง  อาหารริมทาง

ที่มา  7 days to die Crafting

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง



ชื่อ รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง
เขียน  ธเนศ  ลีลาภรณ์
สนพ. stock2morrow
จำนวน 256 หน้า
ราคา 245 บาท

                  หนังสือเล่มนี้ดีมาก ๆ เนื้อหาเหมือนชื่อหนังสือเลย รู้ก่อนตอนนี้ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง ทำไมน่ะหรอ เพราะชีวิตในโลกการทำงานไม่เคยมีใครมาบอกเราว่ามันเป็นยังไงน่ะสิ สิ่งที่เรารู้คือเสียงบ่นของพ่อแม่ ทำให้เรารู้ว่างานแบบนี้ไม่ดีนะ เงินน้อยบ้าง หนักบ้าง และเราก็รู้จากครูที่โรงเรียนว่าเรียนแบบนี้สิให้เงินดี แบบนี้สิ่งรายได้ดี แบบนี้มั่นคง เราก็มุ่งมั่น ไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร อยากเป็นอะไรกันแน่

                 หนังสือเล่มนี้บอกเอาไว้แล้ว สิ่งที่จะต้องเจอในอนาคตหากไปเป็นลูกจ้าง ไม่ว่าอาชีพอะไรก็ตาม บอกอย่างที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ พร้อมกับแนะนำวิธีที่จะหลุดพ้นและมีอิสระทางการเงินให้ แต่ที่สำคัญคือคุณจะทำหรือไม่เท่านั้น

                           คุยกับตัวเองให้จบก่อนว่าต้องการอะไร สร้างเป้าหมายในชีวิต และมุ่งมันทำตาม ศึกษาหาความรู้เพิ่ม เพราะความรู้นี่แหละคือสิ่งที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมาย ถ้ารู้แต่ไม่ทำก็คงไม่มีประโยชน์ 

                            บันได 7 ขั้นสู่การสร้างชีวิตที่ไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต สรุปสั้น ๆ เข้าใจง่าย แต่ทำยาก (สำหรับบางคน) พลอยว่าถ้าเราคุยกับตัวเองจบแล้ว สร้างเป้าหมายในชีวิตได้แล้ว หาความรู้ในเรื่องที่จะทำได้แล้ว มันไม่ยากเลยที่จะไปให้ถึงฝัน

                         อย่าให้ใครมาทำลายฝันของเราด้วยคำว่า "เธอคงเป็นไม่ได้หรอก" และอย่างทำลายความฝันของตัวเองด้วยคำว่า "ฉันไม่มีความสามารถพอ" "ฉันไม่เก่ง" "ฉันไม่รวย ไม่มีเงินทุน" หลายคนที่เริ่มจากไม่มีอะไรเลย เขายังรวยได้ แล้วคุณละได้ลองพยายามแล้วหรือยัง หรือยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ตัดสินไปแล้วว่าตัวเองทำไม่ได้

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review เงินเรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน


ชื่อ เงิน เรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน
เขียน มณฑานี  ตันติสุข
สนพ. ออฟฟิศเมท
จำนวน 307 หน้า
ราคา 249 บาท

               ขอบอกว่าหนังสือเรื่องนี้ดีมากกกกก ควรมีไว้ติดบ้านให้ลูกหลานอ่าน เพราะให้แนวคิดในการจัดการทางการเงินที่ดีมาก เหมือนเป็นครูสอนเรา ไม่ได้สอนแต่ในด้านวิชาการ แต่สอนพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เงินวิ่งเข้ามาและอยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย



                   สอนในเรื่องพื้นฐานของพื้นฐาน ตั้งแต่นิสัยที่ทำให้รวย นิสัยที่ทำให้จน เหตุของการเป็นหนี้ เหตุผลที่ควรบริหารจัดการเงิน วิธีใช้เงินของคนแต่ละแบบ และวิธีแบบไหนที่ทำให้รวย

              ใครที่กำลังหาเทคนิครวยลัด รวยเร็วอาจไม่ตรงใจนัก แต่อยากให้ลองอ่านดูก่อน เพราะทุกสิ่งที่หนังสือเล่มนี้บอก มันกำลังบอกพฤติกรรมการใช้เงินของคน ถ้าอ่านเล่มนี้จบเชื่อว่าคุณจะได้แนวคิดในการบริหารจัดการเงินแน่ ๆ มันจะเปลี่ยนความคิดของคุณไปเลยและเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

                ที่สำคัญรู้อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องนำสิ่งที่รู้มาปฏิบัติจนเป็นนิสัย นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อคุณทำได้พลอยเชื่อว่าคุณจะสามารถจัดการการเงินในชีวิตของตัวเองได้อย่างแน่นอน


วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review ไม่ต้องลาออกจากงานประจำ ก็ทำเงินได้



ชื่อ ไม่ต้องลาออกจากงานประจำ ก็ทำเงินได้
เขียน  เกรียงศักดิ์  มั่นเจาะ
สนพ. POP GET BOOK
จำนวน 256 หน้า
ราคา 220 บาท

                  ซื้อหนังสือเล่มนี้มาเพราะต้องการหาอาชีพเสริมทำ ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ หลาย ๆ คนตกงาน บางคนมีงาน แต่ไม่พอกินจนต้องมีอาชีพที่ 2 ,3 ,4 ไปจนกว่าจะพอ หรือบางคนมีหลายอาชีพแล้วก็ยังไม่พอกิน ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งภาระความรับผิดชอบที่มาก หรือการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยก็ตาม

                 หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงอาชีพที่สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำ ใช้เวลาล่างหลังเลิกงานหรือในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทำ

                 หลาย ๆ อาชีพในหนังสือเล่มนี้อาจจุดประกายให้กับคนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี แต่กับบางคนที่รู้แล้วแต่ไม่สามารถทำได้ก็มีเยอะ

                พลอยคิดว่าไม่มีอาชีพไหนในโลกนี้ง่าย ๆ สบาย ๆ ได้เงินเยอะ อาชีพในหนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน ต้องใช้ความขยัน อดทน เพียรพยายามและที่สำคัญความรู้ในสิ่งที่จะทำเยอะพอควรถึงจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นครูสอนดนครี ครูสอนเต้นแอโรบิค ครูสอนพิเศษ ช่างภาพ นักวาดรูปประกอบ ฯลฯ หลายอาชีพต้องมีความสามารถที่โดดเด่นจึงทำเงินได้

                เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบคุณจะได้ไอเดีย แต่มันจะจบอยู่แค่นั้นหากคุณไม่ปฏิบัติ และไม่ควรทำแบบไม่มีความรู้เพราะมันทำให้คุณไปไม่รอด ผลสุดท้ายก็ท้อและเลิกไปในที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review Money DIY จัดระเบียบการเงินให้อยู่หมัด



ชื่อ Money DIY จัดระเบียบการเงินให้อยู่หมัด
เขียน กาญจนา  หงษ์ทอง
สนพ.กรุงเทพธุรกิจบิชบุ๊ค
จำนวน 182 หน้า
ราคา 169 บาท

                   หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือการเงินเล่มแรกที่อ่าน ตอนนั้นใกล้เรียนจบแล้ว จึงอยากศึกษาเกี่ยวกับการจัดการการเงินของตัวเอง ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเรื่องการวางแผนทางการเงินนั้นเป็นทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่โรงเรียนไม่เคยสอนเรื่องเหล่านี้เลย เราจึงได้ผลผลิตที่มีความรู้มากมาย เก่งในอาชีพการงานแต่กลับมีหนี้สินล้นพ้นตัว แม้แต่ในหมู่ผู้ให้การศึกษาเองก็ตาม

                   หนังสือเล่มนี้เขียนไว้ให้อ่านเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง แบ่งเป็นหัวข้อย่อย ๆ 41 หัวข้อ พลอยเชื่อว่าถ้าหากปฏิบัติตามได้เพียงเล็กน้อยชีวิตต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

                 ในบทแรกเอ่ยถึงการออมและการปลูกฝังนิสัยการอดออม เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้น การจัดงานเงินที่เรากันเอาไว้ แบ่งเป็น 4 กอง การลงทุนรูปแบบต่าง ๆ การจัดการหนี้ และการทำประกัน แม้จะไม่ได้ละเอียดนักในแต่ละเรื่อง แต่ก็ถือว่าให้ไอเดียในการจัดการเอาไว้ครบถ้วนแล้ว ถ้าเราสนใจในเรื่องในก็ไปหาศึกษาเพิ่มเติมในรายละเอียดของเรื่องนั้น ๆ อีกทีหนึ่ง

                  หนังสือเล่มนี้จึงถือว่าดีมาก ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น และมีความสนใจจะบริหารเงินของตัวเอง

Food 7 days to die (TH) อาหารริมทาง

                  ในบทความที่แล้ว เราได้รู้จักอาหารที่ให้พลังงานแต่มีความเสี่ยงจากอาการอาหารเป็นพิษไปแล้ว ในอาทิตย์นี้เราจะมารู้จักอาหารดิบ ๆ ที่หาได้ตามทางทั่วไป แต่ปลอดภัย


1. Blueberries  -  บลูเบอร์รี่


                     บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่หาได้ทั่ว ๆ ไป เก็บได้จากพุ่งบลูเบอร์รี่ ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ชิ้น ใช้ในการทำอาหารและทำเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกเอง ให้ความอิ่ม 3 พลังชีวิต 1 ความสดชื่น 1 ถือว่าน้อยมาก ๆเลย

                    สามารถทำเป็นเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกได้ ช่วงแรกที่หาอะไรกินไม่ได้ กินบลูเบอร์รี่ไปก่อนได้ค่ะ ไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้ามีอย่างอื่นแล้วก็เก็บไว้ทำอาหารดีกว่า


2. Bottled Murky Water -  น้ำขุ่นบรรจุขวด


                   เกิดจากนำขวดแก้วเปล่าไปเติมน้ำในที่ต่าง ๆ มันไม่สะอาด แม้จะได้ความสดชื่น แต่มันจะลดสุขภาพ สามารถหาได้ทั่ว ๆ ไป(นอกจากเอาขวดเปล่าไปเติม) ถ้าหากต้มมันมันก็จะสะอาด สามารถใช้น้ำแข็งสร้างน้ำขุ่นบรรจุขวดได้ เมื่อดื่มแล้วขวดแก้วเปล่าจะอยู่ในกระเป๋าเพื่อใช้ในครั้งต่อไป  เมื่อมีขวดเปล่าพอสมควรคลิกขวาที่แหล่งน้ำ จะสามารถเติมน้ำได้ทุกขวด สามารถเติมได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ แม่น้ำ ลำธาร หรือแม้แต่ห้องสุขา 1 ช่องสามารถเก็บได้ 15 ขวด

                  ไม่ควรดื่ม เพราะมีโอกาส 50%จะเป็นติดเชื้อโรคบิด ควรทำให้สุกก่อนจะดีที่สุด


วิธีสร้างน้ำขุ่นบรรจุขวด

                    ใช้หิมะ 1 ก้อน ขวดแก้วเปล่า 1 ใบ จะได้น้ำขุ่นบรรจุดขวด 1 ขวด ใช้เวลาในการสร้าง 0.01 ถ้าต้องการทำน้ำดื่มบรรจุขวดให้สะอาด จะต้องมีหม้อ,เชื้อเพลิง และแค้มป์ไฟ ซึ่งจะบอกวิธีในบทความต่อ ๆ ไป


3. Coffee Beans - เมล็ดกาแฟ

                       พบได้ทั่วไปในอาคารบ้านเรือน และที่อื่น ๆ ทั่วพื้นที่ และพบได้มากในตู้และอ่างล้างมือในครัว 1 ช่องเก็บได้ 250 เมล็ด ไม่สามารถกินได้ แต่สามารถทำกาแฟได้ โดยจะต้องมีหม้อ,เชื้อเพลิง และแค้มป์ไฟ เมล็ดกาแฟสามารถปลูกได้ ต้นที่โตเต็มที่จะให้กาแฟ 2 เมล็ด


4. Yucca Fruit - มันสำปะหลัง

                  หลังจากทำลายต้นกระบองเพชรจะได้มันสำปะหลัง 1-2 ผล พบมากในพื้นที่ทะเลทราย กระบองเพชรจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่นและซอมบี้ วิธีเก็บให้ทำลายบล็อกด้านล่าง ซึ่งบางครั้งมันอาจจะลอยอยู่ (แทนที่มันจะถูกทำลายเสียนี่)
                          มันสำปะหลังทานได้ ความอิ่ม 3 ความสดชื่น 5 ความอดทน 10 ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ขิ้น สามารถนำไปทำน้ำมันสำปะหลังได้


5. Rabbit on a Stick  -  เนื้อกระต่ายเสียบไม้

                 ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ชิ้น ไม่สามารถทานได้จนกว่าจะทำให้สุกซะก่อน


6. Potato - มันฝรั่ง

                 มันฝรั่งเก็บได้จากต้นมันฝรั่ง 1 ต้นให้มันฝรั่ง 3 ผล สามารถปลูกได้ 1 ช่องเก็บได้ 64 ผล เมื่อกินไปแล้วจะช่วยเพิ่มความอิ่ม 6 พลังชีวิต 1 สามารถทำอาหารได้หลายอย่าง

7. Jar of Honey - กระปุกน้ำผึ้ง

               หาได้จากซอมบี้ผึ้งที่ตายแล้ว หรือจากรังผึ้ง ให้ความอิ่ม 10 ความสดชื่น 5 ความอดทน 40 เอาขวดเปล่าไม่เก็บจากรังผึ้งไม่ได้ รังผึ้งพบได้มากบริเวณป่าที่ถูกเผาทางทิศตะวันตก ในบ้านชั้นใต้ดิน 1 ช่องเก็บได้ 10 ขวด


8. Ear of Corn - ฝักข้าวโพด

                     ฝักข้าวโพดเก็บได้จากต้นข้าวโพด จะให้ความอิ่ม 2 สามารถทำเมล็ดข้าวโพด ปลูกข้าวโพดเองได้ สามารถพบฟาร์มได้ทางตะวันตกเฉียงเหนือของถนนโคโรนาโด้  และพบได้ทั่วพื้นที่ ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ฝัก

9. Mushrooms - เห็ด



เห็ดสามารถพบได้ในถ้ำ หรือผนังถ้ำ 1 ช่องเก็บได้ 64 อัน ความอิ่มได้ 3 ความชุ่มชื่นได้ 1 เพิ่มเข้ามาใน Alpha 11


ที่มา : 7 days to die wiki/food

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง  วิธีทำเมล็ดพันธุ์






วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Food 7 Days to Die (TH) อาหารยังชีพ ที่อาจทำให้สิ้นชีพ

                        ในเกมนอกจากจะสร้างสิ่งของได้ อีกอย่างที่สำคัญและขาดไม่ได้คืออาหาร วันนี้จะแปลเฉพาะบางส่วนก่อน เริ่มกันด้วยอย่างแรกที่หาได้ง่ายที่สุด

1. Moldy  Bread  -  ขนมปังขึ้นรา



                     ใน 1 ช่องสามารถเก็บได้ 64 ชิ้น หาได้ทั่วไป ตามกองขยะ หรือถังขยะ ถึงแม้ว่ากินเข้าไปจะทำให้อิ่ม (ได้แค่ +5 เท่านั้น) แต่ก็มีผลต่อสุขภาพ (ลดเลือด 2 และสุขภาพ 30) และอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ขนมปังขึ้นรายังเป็นส่วนประกอบในการทำยาปฏิชีวนะด้วย  ถ้าหาอย่างอื่นได้แนะนำให้ทานอย่างอื่นดีกว่า เก็บขนมปังขึ้นราไว้ใช้ทำยาปฏิชีวนะ




                       อาหารเป็นพิษ  คืออาการที่เกิดจากการกิน ขนมปังขึ้นรา, เนื้อดิบ, ไข่ดิบ และแซนวิสเก่า  มันจะลดค่าความแข็งแรงลง 10 จุด ทุก ๆ วินาที ภายในเวลา 90 วินาที และ หลอดเลือดจะลดลง 1 จุด ทุก ๆ 4 วินาที ภายในเวลา 30 วินาที

2. Old Sham Sandwich - แซนวิสเน่า



                        ใน 1 ช่องสามารถเก็บได้ 64 ชิ้น ให้ความอิ่มถึง 20 (ขนมปังขึ้นราให้เพียง 5 เท่านั้น) แต่มีผลเสียคือทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ หาได้ทั่วไปในทุกพื้นที่

3. Egg  -  ไข่




                         สามารถหาได้จากรังนกหรือ กล่องเก็บความเย็น ใน 1 ช่องสามารถเก็บได้ 64 ใบ ถ้ากินดิบ ๆ มันจะไปลดความแข็งแกร่ง, เลือด, ความสดชื่น และอาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ไข่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้ม,บลูเบอร์รี่พาย และ เบคอนกับไข่ ความอิ่มได้แค่ 4 แต่ลดอย่างอื่นเยอะ ควรเก็บเอาไว้ทำอาหารมากกว่ากินดิบ

4. Raw Pork  -  เนื้อหมู



                     ได้จากหมูที่ตายแล้ว การทานเนื้อหมูดิบจะได้ความอิ่ม แต่จะมีผลต่อสุขภาพ และอาจมีอาการอาหารเป็นพิษ หนักกว่าไข่ดิบเสียอีก หมูดิบมีกลิ่นหอม ถึงจะเก็บไว้ในเป้สะพายหลังก็ยังได้กลิ่น ไกลถึง 20 ช่อง ถ้าเก็บไว้ในกล่องเครื่องมือในตัวผู้เล่นจะสามารถเรียกซอมบี้ได้ไกลถึง 60 ช่อง ทางที่ดีควรหาที่ปลอดภัยเก็บมันเอาไว้จนกว่าจะนำไปทำอาหาร ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ชิ้น

5. Skinned Rabbit  -  เนื้อกระต่าย



                      ได้จากกระต่ายที่ตายแล้ว การทานดิบ ๆ จะได้ความอิ่ม แต่จะมีผลต่อสุขภาพและอาจมีอาการอาหารเป็นพิษ สามารถนำไปทำอาหารได้ ใน 1 ช่องเก็บได้ 64 ชิ้น เช่นเดียวกับเนื้อหมู เก็บไว้ในเป้มีกลิ่นดึงดูดซอมบี้ 20 ช่อง ถ้าเก็บในกล่องเครื่องมือ 60 ช่อง ซึ่งใน Alpha 9 มีเพียงเนื้อหมูเท่านั้นที่ส่งกลิ่น ทำให้ผู้เล่นเลือกฆ่ากวางที่ฆ่าได้ง่ายกว่า ส่วนกระต่ายไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะวิ่งเร็ว ฆ่าได้ยาก

6. Venison  -  เนื้อกวาง



เนื้อกวางดิบ ๆ ที่ได้จากการล่ากวาง และเหมือนกับข้ออื่น ๆ คือ จะได้ความอิ่ม แต่จะมีผลต่อสุขภาพและอาจมีอาการอาหารเป็นพิษ สามารถนำไปทำอาหารได้ เช่นเดียวกับเนื้อหมู เก็บไว้ในเป้มีกลิ่นดึงดูดซอมบี้ 20 ช่อง ถ้าเก็บในกล่องเครื่องมือ 60 ช่อง ซึ่งใน Alpha 9 มีเพียงเนื้อหมูเท่านั้นที่ส่งกลิ่น ทำให้ผู้เล่นเลือกฆ่ากวางที่ฆ่าได้ง่ายกว่า 

7. Rotting Flesh - เนื้อเน่าเปื่อย



พบได้จากสุนัขซอมบี้ และซอมบี้อื่น ๆ ที่พึ่งฆ่าตายใหม่ ๆ เรียกว่ามันคือเนื้อซอมบี้!!! มีตั้งแต่ Alpha 10 แต่พบได้ไม่บ่อยนัก พอ Alpha 11 เป็นต้นไปก็พบได้มากขึ้น ไม่นิยมนำมากิน เพราะเสี่ยงอาหารเป็นพิษ แถมยังนำไปประกอบอาหาร หรือปรุงสุขไม่ได้ ต้องกินดิบอย่างเดียว จะได้ความอิ่มแต่ก็มีผลต่อสุขภาพ 


ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง  ยาปฏิชีวนะ

ที่มา   7 Days to Die Wiki

Crafting 7 Days to Die (TH) คบเพลิง

                    Crafting 7 Days to Die  ฉบับภาษาไทย ไม่แน่ใจว่าจะจัดให้อยู่หมวดภาษาอังกฤษ หรือ เกมดี เป็นคนชอบเล่นเกม แต่อยากเล่นแล้วได้ภาษาด้วย จึงทำบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแปลตารางสิ่งประดิษฐ์ในเกมบางส่วน เผื่อใครที่เล่นเกมนี้อยู่สนใจก็จะได้เอาไว้ใช้เป็นข้อมูลในการเล่นเกมได้

เริ่มกันที่สิ่งแรกที่จำเป็นมาก ๆ ในเวลากลางคืน

Torch  -  คบเพลิง



                        คบเพลิงมีประโยชน์อยู่ 2 อย่าง คือให้ความสว่างและเป็นอาวุธ สามารถประดิษฐ์ได้จากสิ่งที่หาได้ง่าย ๆ อย่างเศษผ้า หรือหญ้า ที่สำคัญมันจะสว่างไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทำลายมันทิ้ง หรือเอาน้ำไปดับมัน คบเพลิงสามารถวางได้เกือบทุกพื้นผิว มันจะให้ความสว่างเล็ก ๆ รอบตัวผู้เล่น ถ้าอยากย้ายก็แค่กด E หยิบมันขึ้นมาและเอาไปวางไว้ที่อื่น ในช่วงแรกของเกมควรสร้างเอาไว้เลยสัก 4-5 อันก็ได้ เพราะเรายังไม่มีไฟฉายใช้

                        ส่วนประโยชน์อย่างที่สอง เป็นอาวุธ ถ้าตีซอมบี้ที่หัวประมาณ 9 ครั้ง ถึงจะตาย และประมาณ 17 ครั้ง หรือมากกว่านั้นถ้าเป็นร่างกายส่วนอื่น ๆ ถ้ามาตัวเดียว เราก็รอด แต่ถ้ามาหลายตัวนี่คงต้องใช้อย่างอื่นฆ่าแล้วละ ที่สำคัญเลยในตอนกลางคืนมืด ๆ เราจะมองไม่เห็นอะไร ถ้ามีซอมบี้แอบเข้ามาลอบโจมตีเงียบ ๆ เราจะเห็นมันและฆ่ามันได้ อย่างเช่นซอมบี้คลานที่มักมาเงียบ ๆ เสมอ

                   เมื่อใช้เป็นอาวุธตีซอมบี้จะติดไฟ มีโอกาสติดสูงถึง 50% ต่อการตี 1 ครั้ง เมื่อติดแล้วเราก็เดินหนีได้เลย ซอมบี้จะมีไฟลุกท่วมตัวและเดินได้อีกสักพักก็จะตายไปเอง

                         คบเพลิงสามารถใส่ในช่องเก็บของ 1 ช่อง เต็มที่ได้ 50 อัน โจมตีได้ช้า คบเพลิงไม่สามารถวางไว้เหนือสิ่งที่มีโครงสร้างเป็น 0 เช่นทรายหรือ กรวด และแสงไฟจะไม่ทำให้ซอมบี้ช้าลงเหมือน Alpha ก่อน ๆ อีกแล้ว ถ้าไม่อยากให้ซอมบี้วิ่ง ไปตั้งค่าเอาตอนเริ่มเกม

                        ในบางครั้งเราวางคบเพลิงไว้แล้ว แต่มันไม่เผาไหม้ แต่มันยังให้ความสว่างอยู่ บางครั้งเราก็มองไม่เห็นแสง เช่นจุดคบเพลิงวางไว้แล้วเดินห่างออกไปก็จะมองไม่เห็นแสงหรือเห็นว่ามันดับ แต่เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ ๆ มันก็จะติดเหมือนเดิม

 วิธีประดิษฐ์

มีทั้งหมด 3 สูตร วางตามตัวอย่างในรูป ค่ำ

1.  ใช้เศษผ้า ไขสัตว์ และท่อนไม้



2.   ใช้เส้นใยพืช ไขสัตว์ และท่อนไม้



3. ท่อนไม้ และถ่านหิน




ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง   เส้นใยพืช   ก้อนถ่านหิน   ท่อนไม้  เศษผ้า  ไขสัตว์

ที่มา  7 Days to Die Wiki

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review มรกตสนธยา


ชื่อ มรกตสนธยา
ผู้แต่ง ริญจน์ธร
สำนักพิมพ์ อรุณ
จำนวน 415 หน้า

ราคา 295 บาท

เขาอาจไม่ใช่เจ้าชายในฝัน
แต่คืนวันต่อจากนี้จะมีเพียงเธอ



เพริดอต หรือมรกตยามเย็น อัญมณีสีเขียวที่สั่งสมพลังยามทิวา
และมีอำนาจเต็มเปี่ยมยามรัตติกาล ชักนำเธอและเขามาพบกัน
ไม่รู้เป็นเพราะพรหมลิขิตหรือดวงตกกันแน่
คณิตา ดันเผลอทำอัญมณีที่เพิ่งซื้อมาจากร้านกาลเวลาหล่นหาย
เพริดอตรูปหัวใจครึ่งซีกซึ่งพลัดพรากจากอีกครึ่งนำเธอเดินทางสู่โลกใบใหม่
อนาคตแสนห่างไกลจากยุคปัจจุบันกว่าแปดสิบปี
โลกอนาคตที่เมืองไทยสามารถผลิตอวัยวะสำรองของมนุษย์จากสเต็มเซลล์ได้
ที่นั่น หญิงสาวต่างกาลเวลาได้พบกับ อัทธ์ หนุ่มเพลย์บอยมาดแมนแอนด์แฮนด์ซั่ม
ผู้ครอบครองเพริดอตรูปหัวใจอีกซีกหนึ่ง เรื่องราวเลวร้ายดูจะไม่ยอมจบลงง่ายดาย
เมื่อทุกย่ำสนธยายามอำนาจเพริดอตเรืองรอง ดึงเธอและเขาต้องมาผจญชะตากรรมร่วมกัน
ทว่าชายผู้นี้ช่างแตกต่างจากภาพเจ้าชายในฝันเหลือเกิน
เพราะเจ้าคงเล่นตลกกับเธอเป็นแน่แท้ ที่ดันส่งเธอมา
ติดอยู่กับหนุ่มจอมกะล่อนแสนเจ้าเล่ห์อย่างเขา
ที่ร้ายแรงกว่านั้น เธอและเขาต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฑาตกรรมในโลกอนาคตที่อาจถึงแก่ชีวิต!

            คณิตาซื้อเพริดอตมาจากร้านกาลเวลา แต่เผลอทำตกหล่นหายไป เมื่อถึงเวลากลางคืนอีกซีกหนึ่งเรียกหากัน คณิตาจึงไปยังอนาคต เธอได้อัทธ์ช่วยเหลือไว้ แต่เมื่อยามเช้ามาเยือนคณิตาจึงกลับไปเวลาเดิม แต่เพริดอตครึ่งซึกที่หายไปอยู่ในตัวของอัทธ์ ทำให้ทุกค่ำคืนหญิงสาวจะต้องมาที่โลกอนาคตเสมอเมื่ออำนาจของเพริดอตเรียกหากัน

            คณิตาไปปรึกษามุกดาเพื่อนสนิท จนรู้ว่าเจ้าของร้านกาลเวลา “มิตร” คือลุงของมุกดา เพื่อหาทางเอาเพริดอตออกจากตัว ทั้งคณิตาและอัทธ์จึงต้องช่วยกันตามหามิตร ระหว่างนี้ทั้งสองก็ต้องอยู่ด้วยกันไปก่อน บางคืนอัทธ์จะข้ามมายังช่วงเวลาของคณิตา

            อัทธ์เคยเป็นหนุ่มเพลย์บอย แต่เมื่อพบกับคณิตาเขาก็ตัดสินใจที่จะมีเธอเพียงคนเดียวและทำให้หญิงสาวเปิดใจยอมรับเขาให้ได้

            ระหว่างการตามหามิตรและร้านกาลเวลา ทั้งสองก็เข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม มีคนปองร้ายคณิตาเพราะต้องการอวัยวะของเธอ ทั้งที่ในโลกอนาคตนี้มีการผลิตอวัยวะสำรองได้ แต่ก็ยังมีการค้าอวัยวะอยู่อีก เรื่องราวดูมีลับลมคมในชวนน่าค้นหา

            ความยากลำบากต่าง ๆ พิสูจน์ให้ทั้งสองเห็นใจกันและกัน เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่สนุกและน่าตื่นเต้นไม่แพ้อีกสองเรื่องที่ผ่านมา

            หนังสือทั้งสามเล่มในชุด “อัญมณีเหนือกาล” ถือได้ว่าสนุกมากทั้งสามเล่ม มีความเป็นแฟนตาซีมากขึ้นกว่าในภาคแรก “มนตราอัญมณี” แนะนำให้อ่านเรื่องโมรารัตติกาลก่อนที่จะอ่านเล่มนี้เพราะคุณจะได้เข้าใจที่มาที่ไปของอัญมณีเพริดอต แต่ถึงไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไรเพราะในเล่มได้เล่าเรื่องอย่างคร่าว ๆ ไว้แล้ว

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Review ม่านทิวาพชร



ชื่อ ม่านทิวาพชร
ผู้แต่ง บุลินทร
สำนักพิมพ์ อรุณ
จำนวน 352 หน้า
ราคา 275 บาท

กำไลเพชรต้องคำสาปชักพาเธอไปพบชายแปลกหน้า
ณ ดินแดนอันแสนไกล...ยิ่งใกล้ชิดเขาเท่าไหร่
ปริศนาในหัวใจยิ่งเพิ่มขึ้นทุกที

ชลันธรต้องการหาข้อมูลแต่งนิยายจึงไปที่ห้องสมุดและได้อ่านเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกคลุมถุงชน เธอต้องถูกพรากจากคนรัก แต่หนังสือนั้นหน้าหลังขาดหายไป ชลันธรอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดจึงไปยืมหนังสือมาอ่าน และได้พบกับ “มิตร” เจ้าของร้านกาลเวลาผู้ทำให้เธอได้เป็นเจ้าของกำไลหงส์ทิวา ที่มีอยู่ในนิทาน

เพชร อัญมณีอันเปรียบเสมือนความรักที่แข็งแกร่ง งดงาม และมั่นคงตราบนิรันดร
ชลันธร ไม่เคยคิดเลยว่าประเทศภูทิวาที่อ่านพบในหนังสือจะมีอยู่จริง
จนวันที่กำไลหงส์ทิวาซึ่งได้มาจากร้านกาลเวลาพาเธอลอยคว้างไปยังดินแดนลึกลับอีกมิติ
และมาโผล่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มรูปงามเจ้าของรอยยิ้มอบอุ่น
ผู้มีคติประจำตัวว่า ไม่นิยมทำร้ายเด็ก สตรี และคนชรา

แรกพบสบตา จิณลี ก็รู้ทันทีว่าเบื้องบนส่งเธอมาให้เขา
ชายหนุ่มจึงไม่อาจปล่อยให้เธอจากไปจ่าย ๆ เขาเสนอให้หญิงสาวไปพักที่บ้านเป็นการชั่วคราว
ระหว่างหาทางกลับดินแดนที่จากมา และยิ่งได้รู้จักกันมากเท่าไหร่
ความรู้สึกในหัวใจก็ยิ่งชัดเจน ทว่าโชคชะตาไม่ได้ก่อให้เกิดเพียงความผูกพันลึกซึ้งเท่านั้น
เพราะความฝันปริศนาของชลันธรเกี่ยวกับ ธศิญา ลูกสาวผู้ว่าการเขตราศิในภูทิวา
ซึ่งหายสาบสูญไป ทำให้ทั้งสองต้องร่วมกันค้นหาความจริง
ท่ามกลางวังวนของความคุมแค้น ริษยา และอันตรายจากใครบางคน
ที่พร้อมเข่นฆ่าเขาและเธอได้ทุกเมื่อ!

            ชลันธรฝันถึงเรื่องราวในนิทาน เหตุการณ์ต่อจากที่ได้อ่านเป็นเรื่องเป็นราวทำให้เธอสนใจมันมากขึ้น และเมื่อกำไลกระทบกับแสงแดดมันก็พาเธอไปยังดินแดนภูทิวา

            จิณลี พบชลันธรก็ตกหลุมรักทันทีเขาเสนอให้ที่พักระหว่างหญิงสาวหาทางกลับบ้าน ชลันธรสนใจเรื่องราวของธศิญามาก จิณลีรู้อะไรบางอย่างแต่พยายามปิดบัง

            ความจริงธศิญานั้นตายไปแล้ว วิณญาณของเธอถูกกักขังไว้ ชลันธรคิดจะช่วยปลดปล่อย จิณลีก็คิดเช่นเดียวกัน แต่มีใครบางคนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นและพยายามขัดขวางด้วยการฆ่าให้ตายไปเสีย

            ชีวิตทั้งสองตกอยู่ในอันตรายกำไลหงส์ทิวาจึงพาทั้งสองกลับมายังมิติของชลันธร และกลับไปยังภูทิวาอีกครั้งเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ



            เรื่องนี้ออกแนวสืบสวน แต่แฝงความโรแมนติกไว้มาก จิณลีพยายามแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของตระกูลเขา เมื่อเห็นชลันธรครั้งแรกเขาก็มั่นใจว่าฟ้าส่งเธอมาให้เขา เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อรั้งเธอไว้ รักและดูแลกัน

            ความซับซ้อนของเรื่องราวที่มีหลายบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตายของธศิญา และกำไลหงส์ทิวาทำให้ลุ้นตลอดเรื่อง ที่สำคัญคือลุ้นว่าตอนจบชลันธรจะอยู่ภูทิวา หรือจิณลีจะไปอยู่กับชลันธรกันแน่


            เล่มนี้เน้นที่นิยาม ความรักคือการเสียสละ มากเห็นได้จากที่แต่ละคู่เสียสละและเชื่อใจไว้ใจกัน นอกจากต้องสืบหาความจริงแล้วก็มีเรื่องประทับใจมากมายให้ได้ติดตาม