วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2558

Review รอยทัณฑ์นางฟ้า



ชื่อ รอยทัณฑ์นางฟ้า
สำนักพิมพ์อรุณ
ผู้แต่ง ริญจน์ธร
จำนวน 341 หน้า
ราคา 250 บาท

เพราะความเข้าใจผิดของฮิปนอส
เทพแห่งการหลับใหลจากดินแดนอันไกลโพ้น

เทพธิดา เฟย์โดรา จึงต้องตกสวรรค์มาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์ในชื่อว่า กานต์ฤทัย
เทพบุตรผู้มีชีวิตแสนยาวนานอยู่ภายใต้อนธการของยมโลกเยี่ยงเขาจึงต้องขึ้นจากโลกันตร์
มาตามดูแลเทพธิดาองค์น้อยและรอคอยเวลาส่งเธอกลับคืนสู่สวรรค์

ยี่สิบปีผ่านพ้นกับโทษทัณฑ์ที่เธอได้รับ ในที่สุดโอลิมปัสก็ต้อนรับเธออีกครั้ง
ทว่าการกลับสู่สรวงสวรรค์ของเธอกลับไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อยังมีผู้ปองร้ายหลายชีวิตเทพธิดาองค์น้อยอยู่
ฮิปนอสควรทำเช่นไร เมื่อหัวใจเจ้ากรรมยังคะนึงหาเธออยู่เป็นนิจ
แต่รอยอดีตยังคอยตอกย้ำว่าเขาคือผู้ทำให้เธอเสียใจ

นิยายเรื่องนี้อยู่ในชุด รอยนิรันดร์ เป็นเล่ม 2 ภาคต่อของเรื่อง รอยรักยมทูต อ่านแยกกันได้ค่ะ เรื่องนี้สนุกดี แต่ที่มากกว่าความสนุกคือข้อคิดที่แฝงอยู่ในเรื่อง อย่าอ่านเอาสนุกอย่างเดียวนะ อ่านแล้วคิดด้วยจะรู้ว่าเรื่องนี้มันมีเหตุผลในตัวมันเอง ผลของการกระทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร

ชอบประโยคหนึ่งในตอนท้ายเรื่องที่เทพแห่งการสื่อสารบอกว่าไม่อยากลืมอดีต เพราะอดีตจะเตือนให้เราไม่ทำผิดซ้ำอีก ในขณะที่เทพอีกองค์เลือกจะลืมอดีต เมื่อจดจำได้แทนที่จะเรียนรู้จากมันแต่ก็ไม่ ยังคงทำผิดซ้ำอยู่นั่นเอง

"ไม่มีอดีตอะไรที่ไม่น่าจดจำ" มันก็จริงนะ ขึ้นอยู่กับเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างไร ในเรื่องนี้จะเห็นตัวละครแต่ละคนที่เรียนรู้การจัดการกับความรู้สึกและอดีตแตกต่างกัน 

อ่านสามย่อหน้าบนอย่าคิดว่ามันน่าเบื่อหรือดราม่านะ มันสนุกทีเดียว มีต่อสู้ มีบทกุ๊กกิ๊ก เรื่องต่อสู้นี่อาจจะมีไม่เยอะ หนักไปทางแนวสืบหาความจริงเสียมากกว่า ตอนท้ายที่คือหักมุมมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวนี้

อ่าน ๆ ไปคิดมาตลอดว่าคนร้ายคือคนนี้ หลักฐานทุกอย่างดูใช่ไปหมด อ่านไปเกือบแล้ว ตัวร้ายก็เล่าสิ่งที่ตัวเองทำออกมา ไอ้เราก็เฮ้ย! งั้นมันต้องมีคนอื่นสิ... คนที่ไม่ใช่พวกเดียวกันแต่เหตุการณ์มันพอเหมาะพอเจาะมาก แต่แล้วความจริงก็เผยออกมากลายเป็นคนที่ไม่คาดคิดมาก่อน สนุกกับการอ่านไปคิดไป เดาไปมากเรื่องนี้


วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

Review ห้วงฝันพันธนาการหัวใจ



เรื่อง ห้วงฝันพันธนาการหัวใจ
ผู้แต่ง แก้วแสงจันทร์
สำนักพิมพ์ 1168 Publishing
จำนวน 319 หน้า
ราคา 220 บาท

รักที่เกิดขึ้น ณ ห้วงหนึ่งของช่วงเวลา
นำมาซึ่งพันธนาการหัวใจอันแสนหวาน
รัดร้อยหัวใจสองดวงไปชั่วกาล...
ก้าวผ่านห้วงฝันและกาลเวลา

                 เภตราดีไซเนอร์สาวต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาด เธอฝันถึงที่เดิม ๆ ซ้ำ ๆ กัน ซึ่งคิดว่าถ้าตัวเองฝันแบบนี้คงเป็นสัญญาณว่าจะได้เจอเนื้อคู่ ไม่ก็เจ้ากรรมนายเวรตามมาแน่นอน แต่เภตรานางเอกของเรื่องนั้นหาคำตอบไม่ได้ (ตามสไตล์นางเอก) 



                 เมื่อไปงานแสดงผ้าที่อิตาลี เธอรู้สึกว่าถูกจ้องมองตลอดเวลา หลังเสร็จงานลิซซี่นายจ้างและรุ่นพี่ อดีตนักเรียนเก่าที่อิตาลีอาสาพาทุกคนไปเที่ยว ณ เมืองเฮอร์คิวเลเนียม ที่แห่งนี้เภตราได้ยินเสียงสวดมนต์เหมือนในฝันของเธอ แล้วอะไรบางอย่างก็ดลใจให้ไปที่แห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนซากวิหารเมื่อเภตราแตะที่แท่นก็ถูกอะไรบางอย่างดูดมาในยุค ค.ศ.79 ก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิดไม่นาน

                 เทพีจูโนชักนำให้เภตราและเลโอดิอัสขุนพลหนุ่ม ทั้งสองต่างรักกันแต่เภตรารู้ว่าตัวเองต้องกลับไปจึงไม่อยากให้คนรักต้องอยู่คนเดียว อยากให้เขาได้แต่งงานกับคนดี ๆ ส่วนเลโอดิอัสก็ไม่ต้องการใครนอกจากเภตรา

บางครั้งห้วงเวลาก็มิดาจกางกั้นรัก
รักที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของห้วงเวลา
รักที่นำพามาซึ่งพันธนาการของหัวใจ...

เภตรา ดีไซเนอร์สาวไทยเดินทางไปร่วมงานเทศกาลผ้าไหมโลกที่อิตาลี
อาจเป็นเพราะเทพีจูโนหรืออาจเป็นเพราะโชคชะตาที่นำพา
หญิงสาวชาวไทยจึงได้ย้อนเวลาไปยังเมืองเฮอร์คิวเลเนียม
ตรงกับช่วงเวลาหกเดือนก่อนที่ภูเขาไฟวิสุเวียสจะระเบิดออกมา ในปี ค.ศ.79
ที่นั่นเธอได้พบกับ เลโอดิอัส ชายหนุ่มผู้องอาจและเพียบพร้อม
จากวันเป็นเดือนความคุ้นเคยเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน
จนก่อเกิดเป็นสายสัมพันธ์ที่เรียกว่า รัก...
รักซึ่งอยู่เหนือกฎเกณฑ์แห่งกาลเวลา...

                   ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้ทั้งสองรักกันมากขึ้น แต่เวลาก็เหลือน้อยเต็มทีเภตราต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร จะได้กลับไหม ภูเขาไฟก็ใกล้ระเบิดแล้ว หลายเดือนที่ผ่านมาแผ่นดินไหวแรงขึ้นเรื่อย ๆ

                   เรื่องนี้สนุกมากค่ะ นางเอกกังวลตลอดว่าจะกลับได้ไหมเพราะอีกไม่กี่เดือนภูเขาไฟจะระเบิดถ้าไม่รีบกลับนั่นคือกลับไม่ได้แล้ว และถ้ากลับไม่ได้ก็ต้องหนีไปก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด

                   มีความหนักใจหลาย ๆ เรื่องทั้งไม่อยากให้คนที่รักต้องมาตาย แต่ไม่สามารถบอกได้เพราะกลัวจะไปเปลื่นประวัติศาตร์ ได้แต่เตือนเท่านั้น ทั้งห่วงว่าถ้าตัวเองจากไปแล้วเลโอดิอัสจะไม่ได้แต่งงานกับคนดี ๆ เพราะอยากเห็นคนที่รักมีความสุข



                   แต่แล้วเมื่อดูเหมือนว่าจะไม่ได้กลับแล้ว เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเลโอดิอัส ทั้งพยายามชักชวนให้เขาย้ายไปโรม มันเป็นสถานการณ์ที่บีบหัวใจมาก คืออ่านดูแล้วรู้ว่าเภตรากระวนกระวายแค่ไหน จนวันสุดท้ายก็มีเหตุให้ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปโรม แต่เลโอดิอัสติดงานต้องอยู่ต่อ เภตราจึงขออยู่ด้วย

                  ภูเขาไฟระเบิด เภตราถูกดึงกลับและบอกให้เลโอดิอัสหนีไป มันเป็นช่วงที่อ่านไปน้ำตาร่วงไป (จริง ๆ ร่วงมาสักพักแล้ว) โดยเฉพาะประโยคที่พูดก่อนจากกันมันซึ้งมาก ๆ



                  ตอนแรกที่อ่านก็คิดว่าเดี๋ยวพระเอกก็ข้ามเวลาไปอยู่ด้วย ไม่นางเอกก็กลับไม่ได้แล้วย้ายไปอยู่โรมกับพระเอก ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาแบบนี้ หมดน้ำตาไปเป็นปีบค่ะ แต่คุณแก้วแสงจันทร์ไม่ใจร้ายต่อนักอ่านที่แสนดีขนาดนั้น

                 พระเอกและนางเอกได้มาพบกัน แต่จะพบกันอย่างไร ซึ้งแค่ไหน หาอ่านกันนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน แล้วคุณจะต้องซึ้งและประทับใจกับเรื่องนี้

Review เริงราตรีสีขาว



เรื่อง เริงราตรีสีขาว
ชุดความลับของผีเสื้อ
ผู้แต่ง ภาวิน
สำนักพิมพ์ อรุณ
จำนวน 387 หน้า
ราคา 295 บาท

เขาเกิดมาพร้อมคำทำนายที่ว่า
สตรีผู้มีชะตาผูกพันจะพรากชีวิตเขาให้สั้นลง
เมื่อเธอที่เขารักหมดใจคือสตรีผู้นั้น
เขาจะเลือกสิ่งใด ระหว่าง "หัวใจ" กับ "ชีวิต"

ความรัก ความแค้นของคนในครอบครัวณราตรี 
กับชายลึกลับผู้มีปานรูปผีเสื้อสีขาวที่นิ้วนางข้างซ้าย
 ซึ่งได้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธอในวันที่มืดมิดดุจรัตติกาล...
เขามาพร้อมศรัทธาแห่งรักบริสุทธิ์ที่ไม่มีสีอื่นใดเจือปน

                    ศาศวัต เกิดมาพร้อมกับคำทำนายที่ว่า "สตรีผู้มีชะตาผูกพันจะพรากชีวิตเขาให้สั้นลง" และมันก็เป็นจริงเมื่อคุณธารทิพย์จมน้ำ ศาศวัตในวัยเด็กเข้าไปช่วยไว้ ตั้งจิตแรงกล้าไม่อยากให้แม่ตาย สุดท้ายคุณธารทิพย์ก็ฟื้นจนได้ แต่ศาศวัตก็ต้องอยู่ในสภาพที่แก่ลงไปอีกหลายปี

                     ณราตรีทะเลาะกับพ่อและหนีออกมาเที่ยวที่เชียงราย เธอจ้างชาวเขาคนหนึ่งชื่อ "มุ" พาเข้าป่าโดยไม่รู้เลยว่ามีคนจ้างมุอีกทอดหนึ่งเพื่อให้ทำร้ายเธอ



                      ศาศวัตหรือหนึ่ง มาวิจัยพืชสมุนไพรในป่า ซึ่งเป็นความลับกับเพื่อนที่ชื่อ ษมา และจีวร เด็กรับใช้ ระหว่างเดินเล่นก็พบณราตรีที่บาดเจ็บอยู่ จึงพากลับมารักษา

                     เรื่องราวในเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวพัน (เล็กน้อย) กับเรื่องใต้ปีกรักสีเพลิง และเงารักสีน้ำเงิน เนื่องจากพรไพลิน น้องสาวต่างมารดาของณราตรีเป็นน้องสาวของพรนางฟ้าในเรื่องใต้ปีกรักสีเพลิง ส่วนวาริช ก็เป็นตัวเด่นในเรื่องเงารักสีน้ำเงิน

 ชีวิตเธอมันห่วย!
ณราตรี รู้สึกเช่นนั้นมาตลอด มีแม่... แม่ก็คบชู้สู่ชายจนเกิดเรื่องอื้อฉาว สุดท้ายก็ผูกคอตายหนีอาย มีพ่อ...พ่อก็จงเกลียดจงชังมาตั้งแต่เด็ก เธอเผชิญชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวดเพียงเดียวดายมาตลอดยิ่งรู้สึกย่ำแย่จนเกินเยียวยาเมื่อวันหนึ่งคนเป็นพ่อพูดใส่หน้าเธอว่า "ใช่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก แกไม่ควรเกิดมาเป็นลูกฉันเลยจริงๆ" ฟางเส้นสุดท้ายจึงสะบั้นลง เธอหอบกระเป๋าออกจากบ้าน มุ่งหน้าหาที่พักใจไกลถึงเชียงราย และได้พบกับเขา คนที่ทำให้วันคืนอันมืดมิดดุจรัตติกาลกลับมีแสงสว่างสดใสสาดส่องเข้ามาอีกครั้ง

ชายหนุ่มอบอุ่นอ่อนโยนที่เกิดมาพร้อมกับปานขาวรูปผีเสื้อบนนิ้วนางข้างซ้าย พร้อมคำทำนายจากหญิงชรา "สตรีผู้มีชะตาผูกพันจะพรากชีวิตเจ้าให้สั้นลงยาวใดผีเสื้อโบยบิน ยามนั้นชีวิตจะสิ้นไป" แล้วโชคชะตาก็ชักนำให้เขามาผูกพันกับเธอเข้าจนได้ ความรักของทั้งคู่มิได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ ต้องเผชิญกับเรื่องราวหนักหนาสาหัสจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ที่สุดแล้วเขาและเธอจะทำอย่างไรเมื่อคำทำนายนั้นส่อเค้าว่าจะเป็นจริง

                     ศาศวัตวิจัยพืชที่คาดว่าจะเป็นยาอายุวัฒนะให้เวชกุล ส่วนณราตรีก็เป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทเนเชอรัลเฮลท์ ทุกคนจึงสงสัยว่าณราตรีน่าจะมาสืบความลับ เมื่อณราตรีถูกพิษของพืชชนิดหนึ่ง และต้องอยู่รักษาตัวจนกว่าจะหาย แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ษมา หรือจีวร ต่างก็เป็นผู้ต้องสงสัยด้วยกันทั้งนั้น 



                     ณราตรีถูกทำร้าย ศาศวัตจึงจำเป็นต้องบอกพ่อของณราตรี พ่อลูกจึงปรับความเข้าใจกันได้ เรื่องนี้แรก ๆ ดูธรรมดาแต่ตอนท้ายของเรื่องพลิกผันมากทีเดียว ไม่อยากสปอย มันมีจุดที่หักมุมหลาย ๆ เรื่อง คิดว่าคนนี้ร้าย แต่คนร้ายกลับเป็นอีกคน คิดว่าคนนี้ดี แต่จริง ๆ กลับเป็นคนที่ร้ายที่สุด 

                     ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกับณราตรีคิดว่าคงต้องจิตป่วยตามคนในบ้านไปแน่ ๆ บ้านหลังนั้นมีความลับบางอย่าง ความลับของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป กว่าจะเปิดเผยออกมาก็ตอนท้ายเรื่อง แต่โชคดีที่ณราตรีมีศาศวัตอยู่

                     ชายที่รักเธอมาก ยอมเสียสละแม้ชีวิตของตัวเอง แล้วทั้งคู่ก็ได้อยู่ด้วยกัน  นิยายชุดนี้อ่านจบ 3 เล่มแล้วจะรู้ว่าความแรง และความเข้มข้นของเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ความโรคจิตของตัวร้ายที่ดูจิตไม่ปกติขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็สนุก ลุ้น ๆ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครที่ชอบแนวหักมุม เรื่องนี้เหมาะเลยค่ะ